วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ประเทศจีนมหาการค้าส่งออก

ประเทศจีนมหาการค้าส่งออก
    การค้าต่างประเทศจีนขึ้นแท่นประเทศการค้าใหญ่อันดับ 3 ของโลกอีกในปีนี้ ด้วยตัวเลขการค้าต่างประเทศประจำปี 2005 ที่สูงถึง 1,422,120 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราสูงกว่าปีก่อนหน้า 23.2% โดยปริมาณการค้าต่างประเทศเพิ่มสูงเกือบ 3 เท่า เมื่อเทียบกับปี 2001 ทั้งนี้ จากการประกาศตัวเลขการค้าต่างประเทศของสำนักงานศุลากรแห่งชาติจีน
       ด้านการส่งออกก็ยังมาแรง อยู่ในระดับ 762,000 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราเพิ่ม 28.4% เทียบกับปีก่อนหน้า ส่วนการนำเข้า เท่ากับ 660,120 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นอัตราเพิ่ม 17.6% เทียบกับปีก่อนหน้า นอกจากนี้ ยอดเกินดุลการค้าต่างประเทศจีน ได้ทำสถิติใหม่ ที่ระดับ 102,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงเป็น 3 เท่า ของปีก่อนหน้า
     
       การขยายตัวด้านการค้าต่างประเทศของจีน เป็นไปตามการคาดการณ์ของบรรดาสถาบัน ที่จับตามองการขึ้นของจีน อาทิ กลุ่มเกจิเศรษฐศาสตร์แห่งยักษใหญ่เจ พี มอร์แกน ได้คาดการณ์ว่ามูลค่าการส่งออกจีน จะสูงถึง 767,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แซงหน้าญี่ปุ่น และในปี 2010 ก็จะแซงหน้าสหรัฐฯและเยอรมนี ครองแท่นประเทศส่งออกรายใหญ่ที่สุดของโลก

              แต่บรรดาเกจิในวงการเศรษฐกิจการค้าแดนมังกรเองได้ชี้ถึงจุดบอดที่จีนต้องฝ่าฟัน เพื่อลบล้างปัญหา และก้าวสู่การเป็นประเทศการค้าใหญ่ที่แข็งแกร่งอย่างสง่าภาคภูมิ
     
       เจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์จีนกล่าวว่า แม้จีนจะทะยานขึ้นเป็นประเทศที่มีการค้าขนาดใหญ่อันดับ 3 ของโลก แต่ยี่ห้อจีนนั้น ยังมีจำนวนน้อย จนได้ชื่อเป็น ‘ชาติใหญ่ด้านการผลิต ชาติเล็กด้านเครื่องหมายการค้า’ โดยจากการจัดอันดับเครื่องหมายการค้าที่ทรงอิทธิพลโลก 500 อันดับ ประจำปี 2005 นั้น ยี่ห้อจีนติดอันดับ เพียง 4 ยี่ห้อ เท่านั้น ได้แก่ ไห่เออร์ เลโนโว ซีซีทีวี และฉางหง
     
       ในบรรดาบริษัทส่งออกจีนทั่วประเทศ กลุ่มที่มียี่ห้อเป็นของตัวเองนั้น มีเพียง 20% และสินค้าส่งออกที่เป็นยี่ห้อจีนเทียบกับปริมาณการส่งออกทั้งหมดของประเทศ ก็มีสัดส่วนเพียง 1% เท่านั้นโดยมีสินค้า ‘ติดยี่ห้อ’ (ของคนอื่น) ท่วมท้นในภาคการค้าจีน
     
       แม้จีนได้กลายเป็นประเทศการค้ารายใหญ่ของโลก แต่ก็ไม่ใช่ประเทศการค้าที่แข็งแกร่ง ภาคการค้าจีนยังเต็มไปด้วยความขัดแย้งเชิงโครงสร้างที่เป็นอุปสรรค์ต่อการขย ายผลประโยชน์ ประสิทธิภาพ และคุณภาพในด้านการค้าต่างประเทศ
     
       จากเอกสารข้อมูลของหน่วยงานการค้าจีน ได้สะท้อนปัญหาเชิงโครงสร้างในการส่งออกจีนที่สำคัญคือ เป็นเจ้าของสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาและเครื่องหมายการค้าที่ยังน้อยนิด สินค้าคุณภาพต่ำมีมากล้น ขาดแรงแข่งขันใจกลาง นอกจากนี้ การผลิตสินค้าส่งออกยังสร้างมลพิษสูง สิ้นเปลืองพลังงานมาก สัดส่วนของการส่งออกสินค้าเครื่องจักร เครื่องไฟฟ้าและสินค้าเทคโนโลยีสูงยังไม่สูงนัก ตลาดส่งออกที่พึ่งพิงตลาดเดียวหรือไม่กี่ตลาดมากเกินไป ฯลฯ
     
       ในมูลค่าการค้าต่างประเทศอันมหาศาลของจีนนั้น มีสัดส่วนการค้าสินค้าแปรรูปยังมีอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มสินค้าอุตสาหกรรมเบื้องต้น และโดยทั่วไป การส่งออกจีนไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุตสาหกรรมสำเร็จรูปหรือเป็นผลิตภัณฑ์เทคโนโ ลยีสูง ต่างก็มาจากรูปแบบการผลิตที่ใช้แรงงานเป็นหลัก
     
       นอกจากนี้ ในการส่งออกขนาดใหญ่ของกลุ่มธุรกิจทุนต่างชาติ จีนได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงไม่มากนัก เนื่องจากต่างชาติเป็นฝ่ายควบคุมส่วนที่ได้รับผลประโยชน์สูงสุดไม่ว่าจะเป็น การออกแบบ การวิจัยและการพัฒนา ยี่ห้อและวงจรอื่นๆ ส่วนจีนนั้น ได้รับเพียงค่าใช้จ่ายในการแปรรูปสินค้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
     
       ซุนซี่ว์เหวินรองผู้อำนวยการกรมการค้าระหว่างประเทศของกระทรวงพาณิชย ์จีน เผยว่าในการส่งออกเสื้อผ้าและสิ่งทอจีนนั้น เป็นการค้าแปรรูปสินค้าเท่ากับ 1 ใน 3 และส่วนใหญ่ยังเป็นสินค้า ‘ติดยี่ห้อ’ ส่วนปริมาณการส่งออกสินค้าที่เป็นของจีนเองมีสัดส่วนราว 10% โดยที่กลุ่มบริษัทจีนได้ส่วนแบ่งกำไรจากค่าใช้จ่ายในการแปรรูปสินค้าเพียง 10% กระทั่งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การส่งออกที่พึ่งพิงบริษัทต่างชาติและแปรรูปสินค้ามากเกินไปนั้น ไม่เพียงแต่ไม่อาจนำผลประโยชน์ที่สอดคล้องกันมาสู่เศรษฐกิจจีน แต่ยังอาจสร้างแนวโน้มช่องโหว่ในภาคการผลิตในประเทศด้วย
     
       เฉินเฮ่าหรันนายกสมาคมนำเข้า-ส่งออกผลิตภัณฑ์เหล็ก ชี้ถึงปัญหาเชิงโครงสร้างผลิตภัณฑ์ในการส่งออกเหล็ก ที่มักทำให้สินค้าปะทะกับกำแพงการค้าจากต่างประเทศ มักมีพื้นฐานมาจากสินค้ามูลค่าเพิ่มต่ำ ที่ผ่านกระบวนการผลิตด้วยเทคโนโลยีต่ำ สิ้นเปลืองพลังงานมาก ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์การเผชิญหน้ากับศึกต่อต้านการทุ่มตลาดของเหล็กจีนแต่ละชนิด ซึ่งชนิดที่โดนโจมตีมากที่สุดคือ แผ่นเหล็กรีดร้อน รองลงมาคือแผ่นเหล็กรีดเย็น เหล็กท่อน เหล็กเกลียว เป็นต้น
       นอกจากนี้ สัดส่วนการส่งออกสินค้าประเภทเครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องมืออุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ ยังเป็นตัวชี้วัดสำคัญถึงความแข็งแกร่งและความอ่อนแอด้านการค้าของประเทศหนึ ่งๆ หลิวเหม่ยคุนนายกสมาคมการนำเข้าและส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าจีน กล่าวว่า แม้มูลค่ารวมการส่งออกสินค้าประเภทเครื่องจักรกล เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์จีนขยายตัวติดต่อกันปีต่อปี แต่เมื่อเทียบกับมูลค่าการส่งออกทั้งหมดแล้ว ยังมีลักษณะที่ค่อนข้างนิ่งอยู่ระหว่าง 53%-55% นับว่าทิ้งห่างมากจากกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว อย่างเช่น ญี่ปุ่นมีสัดส่วนการส่งออกสินค้าประเภทดังกล่าว สูงถึง 75%
     
       อย่างไรก็ตาม จีนพยายามคลี่คลายปัญหาการค้าระหว่างประเทศ อาทิ ในปลายปีที่ผ่านมา โดยได้พยายามควบคุมผลิตภัณฑ์สินค้าส่งออกประเภททรัพยากรที่สร้างมลพิษสูง และสิ้นเปลืองพลังงานมาก อาทิ กำหนดให้สินแร่เหล็ก เหล็กดิบ เศษเหล็ก ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมโลหะเหล็ก สินแร่ฟอสฟอรัส อยู่ในกลุ่มสินค้าที่ห้ามการค้าแปรรูป และยังได้ยกเลิกการคืนภาษีการส่งออกแก่กลุ่มสินค้าได้แก่ โลหะซิลิคอน ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมไม้แปรรูปอย่างหยาบ หินขัดมัน เป็นต้น ตลอดจนมีการปรับลดอัตราคืนภาษีการส่งออกแก่กลุ่มสินค้าถ่านหิน เพิ่มภาษีการส่งออกฟอสฟอรัสเหลือง เป็นต้น

http://learners.in.th/blog/anutsara-econ/225941

2 ความคิดเห็น: